วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

22 กรกฏาคม 2016

กระท้อนต้องทุบถึงจะอร่อย กระดังงาต้องลนไฟถึงจะหอม

เครื่องบูชาที่พระเจ้าทรงรับ คือจิตวิญญาณที่ชอกช้ำ ข้าแต่พระเจ้า ใจที่ชอกช้ำและสำนึกผิดนั้น
พระองค์จะไม่ทรงดูหมิ่น สดด. 51.17

การที่เราจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยพระพรและฤทธิ์อำนาจจากองค์พระผู้ทรงสร้างได้นั้น เราก็จะต้องยอมมอบถวายตัว ถวายชีวิตให้พระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดทั้งสิ้นจริงๆ

แล้วก็ยอมให้พระองค์ลิดรอนสิ่งที่พระองค์เห็นว่ามันเป็นกาฝากในชีวิตของเรา ซึ่งมีแต่จะทำลายเรา ทรงดัด ทรงคัดทางเดินของเราให้ออกจากทางแห่งหายนะเปลี่ยนไปสู่ทางแห่งชีวิต

 แต่กว่าจะสำเร็จให้ได้ดั่งพระทัยของพระองค์เจ้านั้น เราก็จะต้องยอมเลิกปากแข็ง ใจแข็ง ใจดื้อกระด้าง เย่อหยิ่งผยองออกไปให้หมดเสียก่อน

บ่อยครั้งในความดื้อรั้นของเรา ถ้าเพียงแค่เรายอมถ่อมใจให้พระผู้สร้างนำพา เราก็จะมีจิตใจที่ถ่อมสุภาพ หรือในความโลภ งก เห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว เมื่อเรายอมให้องค์พระผู้สร้างนำพา เราก็จะเป็นคนที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กลายเป็นคนละคนไปเลย นี่แหละคือสิ่งตรงกันข้ามกับที่ถ้าหากเราไม่ดื้อที่จะยึดติดกับนิสัยเก่าๆของเรา

แต่ทุกวันนี้ผู้เชื่อของพระผู้เป็นเจ้าต่างก็สวมหน้ากากศาสนาเข้าหากัน แสดงให้คนอื่นเห็นสิ่งที่เขาคิดว่าดี ชอบธรรม น่าเคารพเลื่อมใส ศรัทธา นั่นเป็นเพียงการแสดงเท่านั้นแต่เบื้องหลังหน้ากากนั้นเขายังไม่ได้ยอมให้พระเจ้านำพาชีวิตจริงๆ

บางคนมีผลงานที่ดูเหมือนยอดเยี่ยม เก่ง ดูเหมือนจะเกิดผลมาก แต่ถ้าไม่มีกมลสันดานที่ถูกต้องแล้ว ไม่ว่าจะเด่นจะดังเพียงไร ก็สามารถล้มลงไม่เป็นท่าได้เช่นกัน เหมือนม้าแข่งฝีเท้าดี ต่อให้มาจากสายพันธุ์ดียอดเยี่ยมเพียงไร แต่ไม่เคยได้ถูกปราบพยศแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะสามารถขี่มันได้เลย

ในสนามแข่งที่มีเสียงเชียรม้าแข่งแต่ละตัวดังลั่น ไม่รู้ว่าตัวไหนเป็นตัวไหน แต่มันจะได้ยินเสียงเดียวเท่านั้นที่มันจะเชื่อฟัง คือเสียงจ๊อกกี้ของมัน ที่จะเชียรมันวิ่งเข้าสู่หลักชัย

เช่นเดียวกันกับเรา ในแต่ละวันเราจะได้ยินเสียงหลากหลาย บอกให้เราทำโน่นไปนี่ แต่การที่เราจะไปสู้เส้นชัยแห่งชีวิตได้นั้น ก็จะต้องได้ยินพระสุรเสียงของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าของชีวิตเท่านั้น ที่จะบอกเรา ชี้นำพาเราไปสู้หลักชัยแห่งชีวิตของเรา

นั่นก็คือเราจะต้องมีความถ่อมใจ ยอมให้พระองค์นำพาชีวิตของเราจริงๆด้วย(สดด.25.9)

อีกประการหนึ่งที่สำคัญสำหรับม้าแข่งที่จะวิ่งเข้าหลักชัยก็คือ บังเหียร  ชีวิตที่ไม่มีพระเจ้าเหมือนม้าที่ไม่มีจ๊อกกี้ขี่ ไม่มีบังเหียรชักนำไปในเส้นทางที่ถูกต้อง ชีวิตจะสะเปะสะปะหาหนทางแห่งความรอด ความจริงของชีวิต

พยายามไปตามเท่าที่กำลังและหนทางที่จะทำได้ แต่ผลสุดท้ายก็เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หมดเรี่ยวหมดแรง องค์พระผู้สร้างได้สร้างเรามา พระองค์จะเป็นผู้นำพาเรากลับไปสู้เส้นทางดั้งเดิมของเรา เส้นทางแห่งสันติสุข เส้นทางที่ไม่ใช่กำลังของมนุษย์จะสามารถเข้าไปได้ นอกจากโดยพระคุณของพระองค์เท่านั้น(1 คธ. 6.19-20)

ดังนั้นขอให้เราถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการเชื่อฟังพระองค์จริงๆ

ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอวยพระพรทุกๆท่านในวันนี้นะครับ
ทัศนพงศ์ ล.สุวรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น